ตัวผมเองมีโอกาสได้ขับรถทั้งมอเตอร์ไซต์ไฟฟ้า และเคยขับรถมอเตอร์ไซต์แบบเติมน้ำมัน เป็นเจ้าของทั้งสองแบบและก็ขับมาก็เป็นเวลาหลายปี
แต่ในท้ายที่สุดแล้ว ผมก็เลือกใช้มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า 9 ใน 10 ครั้ง ถ้าเอาเข้าจริงๆ ผมว่ามันมีประโยชน์มากกว่ามอเตอไซค์ที่ใช้น้ำมัน และเพื่อเป็นการประหยัดเวลา ผมจะอธิบายให้ฟังประมาณ 5 ข้อแล้วกัน
แรงบิดและแรงเร่งขอตัวมอเตอร์ไซต์
ประสิทธิภาพการใช้งานเป็นสิ่งที่แรกคำนึงถึงเมื่อทำการซื้อรถมาใช้งาน บอกได้เลยว่ายากถ้าจะมาแข่งกับรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า ในขณะที่รถที่ใช้น้ำมันต้องใช้เวลาในการสตาร์ทเครื่องและออกตัว รถมอเตอร์ไซค์พลังงานไฟฟ้าสามารถออกตัวได้ทันทีรวมไปถึงรักษาอัตราการเร่งก็คงที่มากๆซะด้วย
นั่นหมายความว่าคุณจะได้รถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าซึ่งมีขนาดเล็กกว่า เบากว่าแต่คุณภาพการใช้งานเหนือกว่ารถมอเตอร์ไซค์ที่ใช้น้ำมัน
รถมอเตอร์ไซค์แบบใช้น้ำมันเทียบไม่ได้เลยกับรถพลังงานไฟฟ้าครับในส่วนนี้
ทางเลือกที่ดีกว่าต่อตัวของเราเอง
ส่วนนี้อาจจะเป็นเฉพาะบุคคล แต่สำหรับผม ผมมองว่าตัวรถไฟฟ้านั้นสะดวกกับการใช้งานกับไลฟ์สไตล์ของผม
รถไฟฟ้าจะไม่สั่นเหมือนกับรถที่ใช้น้ำมัน พูดให้ชัดเจนคือ เวลาขับหรือเวลาจอดรถติดไฟแดง รถจะไปสั่นมากแบบรถใช้น้ำมันทั่วไปเนื่องจากไม่มีเครื่องยนต์ที่เผาไหม้น้ำมัน
อีกอย่างที่เห็นได้ชัด คือ เรื่องท่อไอเสีย ขอรถมอเตอร์ไซต์แบบปกติที่ปล่อยควัน มลพิษออกมา และร้อนเมื่อไปสัมผัสกับตัวท่อ ตัวรถไฟฟ้านั้นไม่มีส่วนนี้ ทำให้ไม่ต้องคอยกังวลเรื่องมลพิษ และการสัมผัสกับตัวท่อ
มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้านั้นสะดวกสบาย เหมาะสมกับการขับในที่ที่จราจรติดขัด หรือขับไปเที่ยวในที่ห่างไกล โดยที่ไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับเกียร์หรือปัญหาอื่นๆ ลดความกังวลที่จะไม่สนุกเวลาท่องเที่ยวไกลๆ
อีกหนึ่งข้อได้เปรียบของมอเตอร์ไซต์ไฟฟ้า คือ เสียงขณะการขับขี่ เนื่องจากรถไฟฟ้านั้นไม่มีเครื่องยนต์ที่ใช้สำหรับการเผาไหม้ ทำให้เสียงจากเครื่องยนต์นั้นไม่มี รถไฟฟ้าจะใช้พลังจากมอเตอร์ไฟฟ้าซึ่งจะมีเสียงที่เงียบมาก และเงียบกว่าเครื่องยนต์อื่นๆ
บางทีเสียงจากรถมอเตอร์ไซค์แบบปกติก็ทำให้เราอารมณ์เสียได้เหมือนกันนะ อยากจะขับรถเงียบๆ แต่ค่อยมีเสียงดังคอยรบกวน เสียบรรยากาศ ส่วนตัวผมชอบอะไรเงียบๆ ไม่รบกวนคนอื่น อยากจะแอบขับออกจากบ้านไปข้างนอกคนเดียว กินลมชมวิวไปเรื่อยตามสไตล์คนอินดี้
ง่ายกว่า รวดเร็วกว่า สะดวกสะบายกว่า
รถไฟฟ้านั้นใช้งานง่าย สั้นๆเลย ผมบอกไว้แค่นี้
แต่ว่าง่ายอย่างไร อันนี้ก็ต้องมาขยายความกัน เช่น ลองนึกภาพดูว่าน้ำมันคุณจะหมดแต่กว่าจะไปถึงปั้มน้ำมันใกล้บ้าน ก็เป็นกิโล กว่าจะเติมกว่าจะเสร็จ ใช้เวลาไปไม่รู้กี่สิบนาที
ตัดภาพมาที่รถพลังงานไฟฟ้าที่สามารถเติมพลังงานได้ทุกที่ ที่มีปลั๊ก มีพลังงานไฟฟ้า หลังจากขับไปข้างนอกมาทั้งวันแล้วมาจอดพักรถที่บ้าน เราก็สามารถชาร์จพลังงานได้ทันที ตื่นเช้ามารถก็พร้อมใช้งานอีกครั้ง มุ่งหน้าตรงสู่ที่ทำงานได้เลยโดยไม่ต้องแวะเติมน้ำมันให้เสียเวลา
ไม่ใช่แค่เรื่องการประหยัดเวลาและความสะดวกสบาย เรื่องราคา การเปลี่ยนอะไหล่ ก็ทำได้ง่าย และถูกอีกด้วย ด้วยการออกแบบที่สามารถถอดประกอบได้โดยง่าย ราคาที่ไม่แพงสามารถเปลี่ยนได้ทันที ทำให้รถพลังงานไฟฟ้านั้น สะดวก รวดเร็วและสบายกว่าอย่างเห็นได้ชัด
จะเห็นได้เลยว่ารถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า คือ อนาคต และเป็นอนาคตอันใกล้นี้เองที่จะเข้ามาเป็นบทบาทสำคัญในการประหยัด อนุรักษ์สิ่งแวดล้อม คงได้เห็นกันเต็มท้องถนนไม่นาน
Source : Electrek